Sunday, December 14, 2014
Sunday, November 30, 2014
ไฮเปอร์บุ๊ก (Hyperbook)
ไฮเปอร์บุ๊ก (Hyperbook)
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือหนังสือที่เก็บอยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์
หรือเก็บไว้อยู่ในแบบของไฟล์ โปรแกรมส่วนมากที่เข้าใจกันคือ
หนังสือที่เก็บในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องใช้กระดาษ
และมีการสร้างจากคอมพิวเตอร์ และสามารถอ่านได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พีดีเอ (Personal Digital Assistant) Palm และ PocketPC
หรือกระทั่งอ่านได้จากโทรศัพท์มือถือบางรุ่น
E-book เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ด้วยความสะดวกสบายของทั้งการสร้าง E-book ความสะดวกในการพกพา
ขนาดที่เล็ก และสามารถอ่านได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอุปกรณ์พกพาที่สามารถอ่าน E-book
ได้ สามารถสร้างให้ E-book นอกจากจะมีสีสันสวยงามเพื่อง่ายต่อการอ่าน
และทำความเข้าใจแล้ว ยังสามารถใส่เสียง ภาพเคลื่อนไหว สร้างสารบัญ (Link) หรือการคลิกเพื่อส่ง E-Mail ไปยังผู้เขียน หรือ E-Mail
ใน E-book ก็ได้
ข้อดีของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มีข้อดีดังต่อไปนี้
1. เป็นสื่อที่รวมเอาจุดเด่นของสื่อแบบต่างๆ
มารวมอยู่ในสื่อตัวเดียว คือ สามารถแสดงภาพ แสง เสียง ภาพเคลื่อนไหว และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้
2. ช่วยให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาวิชาได้เร็วขึ้น
3.
ครูสามารถใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในการชักจูงผู้เรียนในการอ่าน, การเขียน, การฟังและการพูดได้
4.
มีความสามารถในการออนไลน์ผ่านเครือข่ายและเชื่อมโยงไปสู่โฮมเพจและเว็บไซต์ต่างๆอีกทั้งยังสามารถอ้างอิงในเชิงวิชาการได้
5. หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตจะทำให้การกระจายสื่อทำได้อย่างรวดเร็ว
และกว้างขว้างกว่าสื่อที่อยู่ในรูปสิ่งพิมพ์
6.
สนับสนุนการเรียนการสอนแบบห้องเรียนเสมือน
ห้องสมุดเสมือนและห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
7. มีลักษณะไม่ตายตัว
สามารถแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
อักทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้โดยใช้ความสามารถของไฮเปอร์เท็กซ์
8. ในการสอนหรืออบรมนอกสถานที่
การใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวยิ่งขึ้น
เนื่องจากสื่อสามารถสร้างเก็บไว้ในแผ่นซีดีได้
9. การพิมพ์ทำได้รวดเร็วกว่าแบบใช้กระดาษ
สามารถทำสำเนาได้เท่าที่ต้องการ ประหยัดวัสดุในการสร้างสื่อ
อีกทั้งยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
10. มีความทนทาน และสะดวกต่อการเก็บบำรุงรักษา
ลดปัญหาการจัดเก็บเอกสารย้อนหลังซึ่งต้องใช้เนื้อที่หรือบริเวณกว้างกว่าในการจัดเก็บ
รักษาหนังสือหายากและต้นฉบับเขียนไม่ให้เสื่อมคุณภาพ
11. ช่วยให้นักวิชาการและนักเขียนสามารถเผยแพร่ผลงานเขียนได้อย่างรวดเร็ว
ข้อจำกัดของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
ถึงแม้ว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีข้อดีที่สนับสนุนด้านการเรียนการสอนมากมาย
แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้วยดังต่อไปนี้
1. คนไทยส่วนใหญ่ยังคงชินอยู่กับสื่อที่อยู่ในรูปกระดาษมากกว่าอีกทั้งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ยังไม่สมารถใช้งานได้งายเมื่อเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์
และความสะดวกในการอ่านก็ยังน้อยกว่ามาก
2. หากโปรแกรมสื่อมีขนาดไฟล์ใหญ่มากๆ
จะทำให้การเปลี่ยนหน้าจอมีความล่าช้า
3. การสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี
ผู้สร้างต้องมีความรู้ และความชำนาญในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
4. ผู้ใช้สื่ออาจจะไม่ใช่ผู้สร้างสื่อฉะนั้นการปรับปรุงสื่อจึงทำได้ยากหากผู้สอนไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์
5. ใช้เวลาในการออกแบบมาก
เพราะต้องใช้ทักษะในการออกแบบเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้สื่อที่มี
คุณภาพ
ตัวอย่างไฮเปอร์บุ๊ค
ที่มา : http://nicennnn.blogspot.com/2013/12/hyperbook.html
1. เป็นสื่อที่รวมเอาจุดเด่นของสื่อแบบต่างๆ มารวมอยู่ในสื่อตัวเดียว คือ สามารถแสดงภาพ แสง เสียง ภาพเคลื่อนไหว และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้
2. ช่วยให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาวิชาได้เร็วขึ้น
5. หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตจะทำให้การกระจายสื่อทำได้อย่างรวดเร็ว และกว้างขว้างกว่าสื่อที่อยู่ในรูปสิ่งพิมพ์
7. มีลักษณะไม่ตายตัว สามารถแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อักทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้โดยใช้ความสามารถของไฮเปอร์เท็กซ์
8. ในการสอนหรืออบรมนอกสถานที่ การใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวยิ่งขึ้น เนื่องจากสื่อสามารถสร้างเก็บไว้ในแผ่นซีดีได้
9. การพิมพ์ทำได้รวดเร็วกว่าแบบใช้กระดาษ สามารถทำสำเนาได้เท่าที่ต้องการ ประหยัดวัสดุในการสร้างสื่อ อีกทั้งยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
10. มีความทนทาน และสะดวกต่อการเก็บบำรุงรักษา ลดปัญหาการจัดเก็บเอกสารย้อนหลังซึ่งต้องใช้เนื้อที่หรือบริเวณกว้างกว่าในการจัดเก็บ รักษาหนังสือหายากและต้นฉบับเขียนไม่ให้เสื่อมคุณภาพ
11. ช่วยให้นักวิชาการและนักเขียนสามารถเผยแพร่ผลงานเขียนได้อย่างรวดเร็ว
1. คนไทยส่วนใหญ่ยังคงชินอยู่กับสื่อที่อยู่ในรูปกระดาษมากกว่าอีกทั้งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ยังไม่สมารถใช้งานได้งายเมื่อเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์ และความสะดวกในการอ่านก็ยังน้อยกว่ามาก
2. หากโปรแกรมสื่อมีขนาดไฟล์ใหญ่มากๆ จะทำให้การเปลี่ยนหน้าจอมีความล่าช้า
3. การสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี ผู้สร้างต้องมีความรู้ และความชำนาญในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
4. ผู้ใช้สื่ออาจจะไม่ใช่ผู้สร้างสื่อฉะนั้นการปรับปรุงสื่อจึงทำได้ยากหากผู้สอนไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์
5. ใช้เวลาในการออกแบบมาก เพราะต้องใช้ทักษะในการออกแบบเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้สื่อที่มี
คุณภาพ
Sunday, November 16, 2014
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ความหมาย
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน
หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้
ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน
ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม
วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก
มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน
ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่างๆ
ตัวอย่างโปรแกรม
1) การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เรื่อง โรคความอ้วน
เป็นโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Education Media Development) ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้
คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
ซึ่งผู้จัดทำจะใช้เว็บไซต์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง “โรคความอ้วน” เป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย
โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น
การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน
(ที่มา : http://style336.blogspot.com)
2) โปรแกรมความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ผู้พัฒนา : นายเทพ รัตนเรืองจำรูญ และนายพงศกร พันธุ์พงษ์สิทธิ์
อาจารย์ที่ปรึกษา : อาจารย์สโรชา สายเนตร
สถานศึกษา : ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอัสสัมชัญ
Sunday, November 2, 2014
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Mine-Ads : ระบบค้นหากลุ่มเป้าหมายโฆษณาอัจฉริยะ
(โดย คณะวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์
ภาควิชาซอฟท์แวร์และความรู้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
การดำเนินธุรกิจต่าง
ๆ ในปัจจุบันล้วนต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น
ผู้ประกอบธุรกิจจึงจำเป็นต้องปรับตัวและแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ
เพื่อนำมาช่วยเสริมประสิทธิภาพและความได้เปรียบในการแข่งขัน
นอกจากนี้การโฆษณาซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยส่งข้อมูลข่าวสารจากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค
ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเกื้อหนุนให้ระบบธุรกิจประสบความสำเร็จ
ซึ่งในยุคปัจจุบันการโฆษณาได้ปรับเปลี่ยนจากการนำเสนอผ่านทางสื่อสารมวลชนมาสู่การนำเสนอบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม (Social Network) ต่างๆ ดังนั้น
คณะผู้พัฒนาจึงได้นำเสนอโครงการนี้เพื่อพัฒนาสร้างซอฟต์แวร์ Open Source สำหรับช่วยค้นหากลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาจากเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม
โดยซอฟต์แวร์นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่
การค้นหาความสัมพันธ์กลุ่มย่อย (Clustering) จากเครือข่ายทางสังคม
ซึ่งผู้ใช้สามารถซูมเพื่อย่อหรือขยายหรือแสดงกลุ่มของผู้ใช้ที่สนใจตามเงื่อนไขการค้นหา
และส่วนที่ 2 จะเป็นส่วนที่ระบบสามารถนำข้อมูลประวัติ (Profile)
และความชอบ (Favorite) ของผู้ใช้บริการมาหาความสัมพันธ์และแนวโน้มความสนใจซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของกฎความสัมพันธ์
(Association Rules) เพื่อเป็นแนวทางในการให้ผู้ใช้นำไปใช้ประโยชน์ในการทำการโฆษณาผ่านทางเว็บเครือข่ายทางสังคมต่อไป
1. วัตถุประสงค์หลัก
-
เพื่อชวยคนหากลุมเปาหมายและวิเคราะหความตองการของผูบริโภคที่ใชเครือขายสังคม
2. อุปกรณ์ที่ใช้
-
คอมพิวเตอร์
3. โปรแกรมที่ใช้
-
ซอฟต์แวร์ Mine-Ads
-
Java
-
MySQL
4. ประโยชน์ที่ได้รับ
-
สามารถนําไปวิเคราะหหากลุมเปาหมายและชวยวางแผนในการโฆษณาบนเครือขายสังคมไดอยางมีประสิทธิภาพและไมตองเสียคาใชจายในการซื้อซอฟต์แวร์ทางการคา
Sunday, October 26, 2014
Sunday, August 31, 2014
Subscribe to:
Comments (Atom)




